1. บล็อก/
  2. ความปลอดภัยทางไซเบอร์และการป้องกันทางอินเทอร์เน็ต/
  3. PayPal คืออะไร และทําไมคนนับล้านถึงใช้?

PayPal คืออะไร และทําไมคนนับล้านถึงใช้?

PayPal คือระบบการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ระดับโลกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1998 ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้สามารถส่งและรับเงิน รวมถึงชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์โดยไม่ต้องใช้บัตรธนาคาร ดำเนินงานในกว่า 200 ประเทศ และรองรับหลายสกุลเงิน รวมถึงสกุลเงินหลักทั่วโลก เช่น ดอลลาร์สหรัฐ ยูโร ปอนด์สเตอร์ลิง และแม้แต่สกุลเงินดิจิทัล

บริการนี้ถูกใช้อย่างแพร่หลายทั้งในหมู่บุคคลทั่วไปและธุรกิจ ช่วยให้ฟรีแลนซ์สามารถรับเงินจากลูกค้าทั่วโลกได้โดยไม่ต้องใช้ระบบรับชำระเงินที่ซับซ้อน เจ้าของร้านค้าออนไลน์สามารถรับชำระเงินได้อย่างราบรื่นโดยไม่ต้องเชื่อมต่อเกตเวย์หลายแห่ง สำหรับผู้บริโภค PayPal เป็นตัวเลือกที่สะดวกสำหรับการชำระเงินแบบคลิกเดียว รวมถึงค่าสมัครสมาชิก เกม ตั๋วเครื่องบิน และอื่น ๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ PayPal ยังมีการเชื่อมต่อระดับสูงกับแพลตฟอร์มหลักต่าง ๆ เช่น eBay, AliExpress, Airbnb, Google Play และอื่น ๆ แอปมือถือของบริษัทที่มีให้ใช้งานทั้งบน iOS และ Android มีอินเทอร์เฟซที่ใช้งานง่าย ช่วยให้ผู้ใช้สามารถจัดการการเงินได้ทุกที่ทุกเวลา ชุดคุณสมบัติที่ครอบคลุมนี้ทำให้ PayPal กลายเป็นโซลูชันที่เป็นสากลและเป็นที่ต้องการอย่างสูงในการทำธุรกรรมทั่วโลก

Table of Contents
10. วิธีทําให้ PayPal ปลอดภัยที่สุด

ทําไม PayPal ถึงเป็นที่นิยม?

  • ความสะดวกและรวดเร็ว: เงินเข้าทันที และการชำระเงินออนไลน์ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที
  • การเชื่อมต่อกับแพลตฟอร์มหลัก: PayPal มีให้ใช้งานบน eBay, Amazon, AliExpress, App Store, Google Play และเว็บไซต์อื่น ๆ อีกหลายพันแห่ง
  • การเชื่อมโยงบัตรและบัญชีธนาคาร: ผู้ใช้สามารถเชื่อมโยงและจัดการบัตรหลายใบจากอินเทอร์เฟซเดียว
  • ระบบคุ้มครองผู้ซื้อ: เป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ผู้ใช้เลือกใช้ PayPal เมื่อซื้อของออนไลน์

แม้ว่าแพลตฟอร์มที่ทรงพลังเช่นนี้ก็ยังต้องการการใช้งานอย่างรู้เท่าทันและปลอดภัย

ความปลอดภัยของ PayPal: การป้องกันทํางานอย่างไร

ระบบความปลอดภัยหลายชั้น:

PayPal ได้ลงทุนหลายพันล้านดอลลาร์ในการพัฒนาไซเบอร์ซีเคียวริตี้ ส่วนประกอบสำคัญของระบบ ได้แก่:

  • การเข้ารหัส SSL: ข้อมูลทั้งหมดที่ส่งระหว่างผู้ใช้กับเซิร์ฟเวอร์ของ PayPal จะถูกเข้ารหัส ซึ่งหมายความว่าหากข้อมูลถูกดักจับก็ไม่สามารถถอดรหัสได้หากไม่มีคีย์
  • การยืนยันตัวตนสองชั้น (2FA): เมื่อเข้าสู่ระบบจากอุปกรณ์ใหม่ PayPal จะส่งรหัสครั้งเดียวไปยังโทรศัพท์หรืออีเมลของคุณ ทำให้แฮ็กเกอร์เข้าถึงได้ยากขึ้นมาก
  • การติดตามกิจกรรมที่น่าสงสัย: ระบบจะวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ ตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ และอุปกรณ์ หากมีผู้พยายามเข้าสู่ระบบจาก IP หรืออุปกรณ์ที่ไม่รู้จัก บัญชีจะถูกบล็อกชั่วคราวจนกว่าจะยืนยันตัวตนได้
  • การสนับสนุน 24/7: หากสงสัยว่าถูกแฮ็ก ผู้ใช้สามารถติดต่อทีมสนับสนุนได้ตลอดเวลา

การคุ้มครองผู้ซื้อ

ข้อดีอย่างหนึ่งของ PayPal คือโปรแกรม “คุ้มครองผู้ซื้อ” ซึ่งมอบสิทธิประโยชน์ที่สำคัญให้แก่ลูกค้า หากสินค้าที่ซื้อผ่านแพลตฟอร์มไม่ได้รับการจัดส่ง มาถึงในสภาพเสียหาย หรือแตกต่างจากคำอธิบายอย่างมีนัยสำคัญ ผู้ใช้สามารถเปิดข้อพิพาท ส่งหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และขอรับเงินคืนเต็มจำนวนได้ ฟีเจอร์นี้มีประโยชน์อย่างยิ่งเมื่อซื้อสินค้าจากแพลตฟอร์มอย่าง eBay, Etsy, AliExpress และร้านค้าออนไลน์ต่างประเทศที่ไม่มีการสนับสนุนหรือการรับประกันการคืนสินค้าโดยตรง

กระบวนการขอคืนเงินทำได้ง่าย: เพียงเปิดข้อพิพาทภายใน 180 วันหลังชำระเงิน อธิบายปัญหาอย่างชัดเจน และแนบหลักฐาน เช่น รูปถ่ายสินค้า ภาพหน้าจอการสนทนากับผู้ขาย หมายเลขติดตาม และใบเสร็จ หากไม่สามารถตกลงกันได้ ข้อพิพาทสามารถยกระดับเป็นคำร้องขอให้ PayPal พิจารณาและดำเนินการตรวจสอบโดยอิสระ

สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ PayPal มักจะยืนอยู่ข้างผู้ซื้อโดยสุจริต โดยเฉพาะหากผู้ซื้อมีหลักฐานสนับสนุนและปฏิบัติตามกฎของแพลตฟอร์มอย่างถูกต้อง ทำให้ PayPal เป็นทางเลือกที่น่าเชื่อถือเมื่อเทียบกับการโอนเงินผ่านธนาคารซึ่งมักจะไม่สามารถเรียกเงินคืนได้ง่าย

อย่างไรก็ตาม การคุ้มครองนี้ไม่ครอบคลุมสินค้าทุกประเภท เช่น สินค้าดิจิทัล บริการ หรือการทำธุรกรรมแบบพบหน้ากัน ดังนั้น ควรศึกษานโยบายคุ้มครองให้ชัดเจนและเก็บหลักฐานการชำระเงินไว้ทุกครั้งก่อนซื้อสินค้า

ความปลอดภัยของ PayPal

ความเสี่ยงที่มีอยู่เมื่อใช้ PayPal

แม้มาตรการรักษาความปลอดภัยจะเข้มแข็ง แต่ PayPal ก็ไม่อาจรอดพ้นจากการโจมตีทางไซเบอร์และกิจกรรมฉ้อโกงได้ทั้งหมด ผู้ใช้งานมักตกเป็นเหยื่อจากความประมาทของตนเองมากกว่าช่องโหว่ของระบบ

ฟิชชิ่งและอีเมลปลอม

มิจฉาชีพส่งอีเมลที่ดูเหมือนการแจ้งเตือนจาก PayPal โดยมีลิงก์ไปยังเว็บไซต์ปลอมที่คล้ายกับของจริง เมื่อลงชื่อเข้าใช้ ข้อมูลจะตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดี

วิธีสังเกตฟิชชิง:

  • ที่อยู่อีเมลผู้ส่งไม่ถูกต้อง (เช่น paypa1-security.com).
  • มีข้อผิดพลาดในข้อความหรือใช้ภาษาที่แปลก

มีการข่มขู่ เช่น “บัญชีของคุณจะถูกบล็อกภายใน 24 ชั่วโมง!”

การแฮ็กบัญชี

สาเหตุของการถูกแฮ็ก:

  • รหัสผ่านอ่อนแอ (เช่น 123456 หรือ qwerty)
  • ใช้รหัสผ่านเดียวกันในหลายเว็บไซต์
  • ไม่ได้เปิดใช้ 2FA
  • เข้าสู่ระบบจากอุปกรณ์ที่ไม่น่าเชื่อถือหรือเครือข่ายสาธารณะ

หากถูกเจาะระบบ ผู้เจาะสามารถ:

โอนเงินไปยังบัญชีอื่น

เปลี่ยนข้อมูลติดต่อของคุณ

เข้าถึงข้อมูลทางการเงินของคุณ

การซื้อและการขายที่เป็นการฉ้อโกง

ผู้ขายหลอกลวง: ได้รับเงินแต่ไม่จัดส่งสินค้า หรือจัดส่งของปลอม

ผู้ซื้อหลอกลวง: สั่งซื้อแล้วอ้างว่าสินค้าไม่ถูกจัดส่งเพื่อขอเงินคืน

ความปลอดภัยของ PayPal

วิธีทําให้ PayPal ปลอดภัยที่สุด

ใช้ VPN เมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

เครือข่าย Wi-Fi สาธารณะเป็นแหล่งอันตรายสำหรับอาชญากรไซเบอร์ หากไม่มีการเข้ารหัส ข้อมูลของคุณอาจถูกดักจับได้แม้ไม่มีอุปกรณ์พิเศษ

Planet VPN เป็นเกราะป้องกันดิจิทัลของคุณ:

  • เข้ารหัสทราฟฟิกอินเทอร์เน็ตทั้งหมดอย่างปลอดภัย
  • ซ่อน IP ที่แท้จริงของคุณ
  • ป้องกันการรั่วไหลของ DNS และ IP
  • ข้ามข้อจำกัด (เช่น หาก PayPal ถูกบล็อกในประเทศของคุณ)

เปิดใช้ VPN ทุกครั้งที่:

เข้าสู่ระบบ PayPal ในร้านกาแฟ โรงแรม หรือสนามบิน

ใช้ PayPal ในประเทศที่มีการเซ็นเซอร์

เชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ผู้อื่นหรืออุปกรณ์สาธารณะ

เปิดใช้งานการยืนยันตัวตนแบบสองปัจจัย

ตั้งค่า 2FA ในเมนู “Security” → “Login Management”

แนะนำให้ใช้แอปสร้างโค้ด (Google Authenticator, Authy) แทนการรับรหัสทาง SMS

ตั้งค่าการแจ้งเตือนการเข้าสู่ระบบ

กรุณาเปิดใช้งานการแจ้งเตือนทางอีเมลและ SMS เพื่อรับการแจ้งเตือนทันทีเกี่ยวกับกิจกรรมใด ในบัญชีของคุณ รวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง การเข้าสู่ระบบ การเปลี่ยนรหัสผ่าน และการโอนเงิน ฟีเจอร์นี้จะช่วยให้คุณสามารถตอบสนองได้อย่างทันท่วงทีหากมีผู้อื่นเข้าถึงบัญชีของคุณ

ตรวจสอบประวัติการเข้าสู่ระบบและการชําระเงินของคุณอย่างสม่ําเสมอ

ในบัญชี PayPal ส่วนตัว คุณสามารถดูได้ว่า:

  • เข้าสู่ระบบจากอุปกรณ์ใดบ้าง
  • จาก IP ใดบ้าง
  • มีธุรกรรมใดเกิดขึ้นบ้าง

หากพบสิ่งผิดปกติ ให้เปลี่ยนรหัสผ่านทันทีและติดต่อฝ่ายสนับสนุน

สรุป: PayPal ปลอดภัยหรือไม่?

PayPal เป็นหนึ่งในบริการชำระเงินที่ปลอดภัยที่สุดในโลก มีการต่อสู้กับการฉ้อโกงและมีเครื่องมือป้องกันและสนับสนุนลูกค้าที่เชื่อถือได้

แต่ไม่มีระบบใดที่ปลอดภัย 100% หากผู้ใช้งานไม่ดูแลสุขอนามัยทางไซเบอร์ของตน

สรุป:

ใช่ PayPal ปลอดภัยหากใช้อย่างถูกต้อง

ไม่ มันไม่สามารถป้องกันฟิชชิงได้หากคุณไม่ตรวจสอบ URL

ใช่ การเปิด 2FA และใช้ VPN ช่วยเพิ่มความปลอดภัยอย่างมาก

ใช้ PayPal อย่างมีสติ อย่าลืมใช้ Planet VPN และการป้องกันอื่น ๆ เพื่อให้เงินของคุณปลอดภัย